โพสต์แนะนำ

คู่มือเดินป่า..ตอนที 1 "เตรียมตัวก่อนเข้าป่า"

คู่มือเดินป่า..ตอนที 1 ทำไมต้องเดินป่า การเดินในป่า เป็นการชาร์จแบตให้กับตนเอง มีงานวิจัยและบันทึกหลายฉบับพบว่า ธรรมชาติสีเขียวช่วยผ...

เวลาหลงป่า เดินเป็นเส้นตรงออกจากป่าได้จริงหรือหลอก... ที่นี่มีคำตอบ

เวลาหลงป่า เดินเป็นเส้นตรงออกจากป่าได้จริงหรือหลอก... ที่นี่มีคำตอบ


นี่เป็นคำตอบที่ผมชอบและขอนำมาเผยแพร่เป็นแนวทางให้เพื่อนๆกัน ซึ่งมีเนื้อหาใกล้เคียงกับ "วิธีการอยู่รอดในป่า ตอน " 3 สิ่งต้องทำ!...ก่อนออกเดินป่า"http://survivethailand.blogspot.com/2018/01/blog-post.html ลองอ่านกันเลย!!


การหลงป่ามักเกิดขึ้นในการเข้าไปในเขตป่าลึก  แบบที่ไม่เคยมีใครเข้าไปถึง  และมักเกิดขึ้นเวลาโพล้เพล้ใกล้ๆค่ำ  เสียงสว่างจะน้อยครับ   ช่วงเวลานี้เองที่เค้าว่ากันว่าป่าจะเปลี่ยน  บวกกับความมืดกับความเงียบสงัดแล้ว  ความกลัวก็จะเกิดขึ้น  ...

ผมเคยมีประสบการณ์ตรง  ตอนไปช่วยรุ่นพี่ภาควิชาที่มหาวิทยาลัย  ไปออกสำรวจพื้นที่ภาคสนาม  เพื่อเก็บข้อมูลและตัวอย่างหินมาทำรายงานวิทยานิพนธ์หัวข้อเกี่ยวกับการติดตามสายแร่ทองคำ  ที่ป่าทางภาคเหนือ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง   บางช่วงของพื้นที่คาบเกี่ยวเข้าไปในเขตป่าลึกก็มี  ....

ปกติการเดินทางสำรวจเราจะเตรียมเวลาเผื่อขากลับออกมาด้วย  ออกเดินทางแต่เช้าตรู่   ช่วงบ่ายๆ 4โมงเย็นจะเตรียมหาทางกลับกันแล้ว   วันนั้นเราเดินเข้าไปลึกมาก  บวกกับต้องเก็บตัวอย่างหลายจุด  จนทำให้เลยเวลาปกติไป   จนใกล้จะมืดแล้วก็ยังอยู่ในป่า  ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ชินทาง และชาวบ้านปกติก็เข้ามาไม่ลึกขนาดนี้   จนเวลาพลบค่ำ   (ปกติเวลาเราสำรวจสายแร่ทองคำเราจะเดินเก็บตัวอย่างตามแม่น้ำ)  ท้องฟ้ากำลังมืดบวกกับช่วงนั้นลำน้ำตวัดเป็นแบบเกือกม้า หรือ แบบคดโค้งตวัดไปมา  แล้วก็วกกลับมาที่เดิม  ไม่ไปไหนเลยวนอยู่แค่แถวนั้น  นอกจากสายน้ำเล็กๆแล้วรอบๆข้างก็เป็นป่าทั้งหมดเลย  เราไปกัน3คน  เราทุกคนรู้ว่าเรากำลังหลงป่าแล้ว  ต้องรีบออกจากจุดนี้ให้ได้ก่อนมืดสนิทไม่งั้นหาทางเดินทางออกจากป่าลำบากแน่   ...

เรามีแผนที่กับเข็มทิศแต่เราไม่ได้เดินทางจับจุดกับแผนที่มานานหลายชั่วโมงแล้ว (ความผิดพลาดคือไม่ได้กำหนดจุดตัวเองให้ตรงกับในแผนที่ไว้ตลอดเวลา   เวลามาถึงจุดที่อ่านภูมิประเทศไม่ออก เช่นหลงป่า   ป่าเหมือนกันหมด  หรือภูเขาแต่ละลูกรูปร่างเหมือนๆกัน หรือกรณีที่มองไม่เห็นภูมิประเทศจริงเช่นเวลาค่ำๆแบบนี้  ก็จะไม่สามารถกำหนดจุดตัวเองลงบนแผนที่ได้ หรือแม่น้ำเปลี่ยนสาย คือแผนที่เค้าสำรวจทำกันมาหลายสิบปีแล้ว  เวลามาเดินสำรวจจริงๆพบว่าไม่เหมือนในแผนที่  เช่นแม่น้ำตวัดไปทางอื่นแล้วเป็นต้น )
   (ปกติการเดินทางสำรวจในป่าลึกเราจะต้องจับจุดตัวเองให้ตรงกับแผนที่ไว้ตลอดเวลา  เช่นจากgps หรือจะจากการอ่านภูมิประเทศ  หรือการประมาณระยะทางก้าวเดินก็แล้วแต่  ก็ควรทำ  ไม่งั้นหลงแน่   แต่วันนั้นเราไม่ได้ทำ  พับแผนที่เก็บแล้วเดินตามลำน้ำอย่างเดียว พอถึงจุดน่าเก็บตัวอย่างค่อยเปิดgps แล้วมาร์กลงบนแผนที่  วิธีลัดเอาเลยสะดวกดี)  
ดูสินค้าของเรา>>คลิก..


เราก็พยายามหาทางจับจุดออกจากตรงนั้นให้ได้ก่อน  โชคดีเหลือเกินเราเดินๆไปสังเกตเห็น "ทางควายเดิน"  ครับ  คือควายที่ชาวบ้านเค้าเลี้ยงแบบปล่อยๆเข้าไปในป่า แล้วพอค่ำมันจะเดินกลับหมู่บ้านเองหรือค่อยมาไล่กลับ    จนทางเดินของมันโล่งเตียนและมีรอยเท้าจนสังเกตได้   มีควายแถวนี้ต้องมีหมู่บ้านคน   แล้วเราก็เดินตามทางควายออกมาเรื่อยๆ   จนป่าเริ่มโล่งพร้อมๆกับความมืดปกคลุมด้วย   จนมาเจอแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งเราจำได้ และเจอทุ่งนาในที่สุดเดินไปอีกหน่อยก็ถึงหมู่บ้าน  รู้สึกโล่งมากๆเลยครับตอนนั้น    ต้องขอบคุณทางควายเดินจริงๆ เพราะเราไปสำรวจป่าแถบนั้นช่วงเดินพฤษภาคม ช่วงหน้าฝน  ทากดูดเลือดเยอะมากๆครับ   เราเดินๆไปพื้นดินสะเทือนมันจะกระดื๊บๆเข้ามาหากันเป็นแถวเลย  ผมโดนไม่เยอะเท่าไหร่  รุ่นพี่ก็ไม่โดน  มันมาดูดผมผมเอากรดหยดใส่มันก็หลุด(กรดเจือจางเอาไว้สำหรับทดสอบคุฯสมบัติหินปูน) เพื่อนผมนี่สิตอนเดินไม่รู้สึกอะไรเลย  พอมาถึงที่พักถอดถุงเท้าออกเท่านั้นแหละ  ตัวเป้งๆทั้งนั้นเลยครับ  มันดูดเลือดจนอิ่ม   เห็นแล้วสยองมากๆ

พอปีต่อมารุ่นผมได้ไปสำรวจพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เขตอำเภอแม่สะเรียง  และอำเภอแม่ลาน้อย    พื้นที่ผมป่าไม่ทึบมากเลยไม่ค่อยหลง  แต่เพื่อนผมบางกลุ่มที่ป่าทึบหลงทางครับ  คือเดินจนมืดนั่นแหละ แล้วเผื่อเวลากลับไม่ทัน   ปกติเดินField ภาคสนามทางธรณีวิทยาเรามักจะเดินตามแม่น้ำกับเดินตัดสันเขา  คือเดินบนยอดสันเขา  เพราะ2ที่นี้มีโอกาสเจอหินโผล่เยอะที่สุด   ผมถามเพื่อนว่าทำยังไงออกมาได้   เค้าบอกยังมีไฟฉายอยู่(ซึ่งพวกเราต้องมีทุกกลุ่มเวลาออกฟิวทุกครั้ง)   เปิดแผนที่พยายามอ่านแผนที่ในความมืดด้วยไฟฉาย   แล้วเปลี่ยนจากเดินตัดสันเขา  ค่อยๆลดระดับลงมาเรื่อยๆ  จนหาทางออกได้  (เพราะถ้ายังขืนเดินบนสันเขาอยู่   เดี๋ยวอาจตกเหวได้นะครับ)   ........... สรุปอยู่ในป่าลึกอย่าอยู่จนมืดครับ  มืดแล้วจะหลงอันนี้แน่นอน    ...ประสบการณ์ตรงจากอดีตนักศึกษาธรณีครับ 

......... ส่วนเรื่องหลงป่าแล้วเดินตรงๆตลอด  คงทำไม่ได้ครับ  ในพื้นที่จริง  เพราะเวลาเราหลงป่าเราไม่ได้หลงทิศนะครับ แต่เราหลงที่  คือไม่รู้จักสถานที่นั้นมาก่อน และไม่รู้ว่าจะไปทางไหน  เช่นเวลาอยู่ในป่าลึกๆแต่ยังพอมีแสงดวงอาทิตย์  เราไม่ได้หลงทิศ  เราอ่านทิศได้  แต่ถ้าเราไม่รู้จุดที่ตัวเองอยู่ในขณะนั้น  เราเดินตามทิศนั้นไปเรื่อยๆ  ก็เรียกว่าหลงทางอยู่ดีครับ  เพราะไม่รู้เลยว่าทิศที่เราเดินตามไปเรื่อยๆนั้นจะพาเราไปไหน  หรือถึงจุดไหน   ก็หลงอยู่ดีครับ   จะหายหลงก็ต่อเมื่อทราบว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน  และข้างเราที่จะเดินต่อไปจะเป็นอะไร  คือรู้ลักษณะภูมิประเทศโดยรวมทั้งหมดคร่าวๆนั่นเอง  ส่วนการเดินตามทิศจะรู้แค่ทิศ คือไม่หลงทิศ แต่ไม่รู้ภูมิประเทศก็ทำให้สับสนได้ เพราะลักษณะภูมิประเทศจริงไม่ได้แบนราบเรียบเหมือนในแผนที่  แต่จะมีอะไรเยอะแยะ  พื้นที่จริงมันเป็นสามมิติ    ส่วนใหญ่ที่ทำให้คนหลงคือ เวลาเราเดินทางในพื้นที่จริง เราเห็นโลกทางภาพตัดขวางนะครับ  คือสายตาจะเห็นภาพแบบตั้งมุมมฉากกับผิวโลก   แต่สิ่งที่จะทำให้เราไม่หลงคือเราต้องรู้จักภาพรวมของพื้นที่ ซึ่งเป็นภาพที่มองจากข้างบน  (ฺBird eyes  view)  เหมือนนกที่บินบนท้องฟ้า  สายตามองค่ำลงมา  มองเห็นเป็นTop view   
 สรุปก็คือต้องมีรูป Top  view  ของพื้นที่นั้นในหัวเราก่อนครับ  ถึงจะไม่หลงทาง    เพื่อนผมบางคนแม้มีแผนที่ในมือให้เดินนำทางก็ยังพาหลงได้ครับ  เพราะอาจจะอ่านแผนที่ไม่คล่อง  ที่อ่านไม่คล่องเพราะในหัวไม่มีภาพรวมของพื้นที่  หรือมองภูมิเทศจริงเทียบกับแผนที่ไม่ออก  จริงๆไม่ใช่อ่านลัญลักษณ์ในแผนที่ไม่คล่องหรอก  เพราะเราเรียนมาเหมือนกันหมด  รู้เหมือนกันหมด  แต่อ่านภูมิประเทศจริงไม่ออกต่างหาก  เพราะมันต้องอาศัยจินตนาการด้วย เพราะอย่างที่บอกภาพมันคงละ view กัน
เครดิต:https://pantip.com/topic/34190250

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น