คู่มือเดินป่า..ตอนที่ 3
อุปกรณ์เดินป่า
"ในป่าไม่มีสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เราจึงต้องแบกของกินของใช้ติดตัวไปด้วย"
ถึงแม้ว่าป่าจะเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เพราะมีวัสดุธรรมชาติให้เลือกใช้มากมาย แต่การดัดแปลงวัสดุธรรมชาติมาใช้ บางอย่างอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางทุกวัน เช่น การตัดไม้มาสร้างที่พักในป่า จะเสียเวลามากกว่าการผูกเปลและกางฟลายชีท อาจจะหาวัสดุที่เหมาะสมได้ลำบาก ถึงหาเจอแล้วก็ยังต้องเสียเวลาตัดอีกไม่ใช่น้อย เช่นเดียวกับการพกผ้าปูพื้นผืนเล็กๆไปเพื่อใช้วางของไม่ให้เลอะ ย่อมสะดวกกว่าการไปหาตัดไม้ในป่ามาใช้
อุปกรณ์ที่ใช้ตามบ้าน มีขนาดใหญ่เทอะทะและหนัก จึงแทบจะนำมาใช้แทนอุปกรณ์เดินป่าไม่ได้เลย ขืนพกของใช้ในเมืองไปจะไปติดขัดกลางทาง อย่างไฟฉายที่ใช้ตามบ้าน ใส่ถ่านก้อนใหญ่ขนาด C หรือ D ถ้าพกไปทั้งกินที่ทั้งหนัก พอเจอความชื้นเจอกระแทกหน่อยก็พัง หรือแม้แต่เครื่องกันหนาว และรายละเอียดอื่นๆอีกมาก
การเข้าป่าโดยไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสม อาจจะเจ็บตัวกลับมา ยิ่งมีอุปกรณ์ดี ยิ่งเจ็บตัวน้อยลง ถ้าคิดจะชวนเพื่อนคนที่ไม่พร้อมไปด้วย เขาจะเบื่อไม่อยากไปอีกเลย หรืออาจจะกลับมาหมกมุ่นอยู่กับ การซื้อและทดลองอุปกรณ์ เพราะ นักเดินป่ามือใหม่ที่มาจากในเมือง มักจะเข้าใจว่า อุปกรณ์ทุกอย่างที่มนุษย์สร้างขึ้น จะช่วยให้ชีวิตในป่าสะดวกสบายขึ้น เหมือนชีวิตในเมืองที่ต้องพึ่งอุปกรณ์จำนวนมาก แต่ชีวิตจริงในป่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น เวลาเดินป่า เราต้องแบกของเอง ยิ่งแบกของมาก ยิ่งมีภาระมาก ถึงแม้จะมีลูกหาบ
แต่เขาก็ช่วยแบ่งเบาภาระเราได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เราจึงไม่สามารถแบกทุกอย่างติดตัวไปได้ ต้องแบกไปเฉพาะของที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ และต้องเป็นของที่ออกแบบมาสำหรับการเดินป่าโดยตรงด้วยคือ เล็ก เบา ทนทาน ประหยัดไฟ ยิ่งถ้าต้องเข้าป่าลึก เดินหลายวัน ยิ่งต้องแบกเฉพาะของที่เกี่ยวกับความเป็นความตายเท่านั้น
สื่งมนุษย์ต้องการ 3 อย่าง!!...เพื่อให้ร่างกายทำงานปกติ
คือ น้ำสะอาด, อาหารครบ 5 หมู่, และ ได้นอนหลับสนิท บนที่แห้ง อบอุ่น ปราศจากแมลงหรือสัตว์รบกวน ถ้าสิ่งใดขาด ร่างกายจะเริ่มเฉื่อยลง อุปกรณ์ที่ทุกคนควรจะติดตัวไว้เวลาเข้าป่าจึงได้แก่ กระติกน้ำ อาหารแห้ง เปลสนาม ฟลายชีท และถุงนอน
>>>>>>>น้ำ<<<<<<<
กฎข้อแรกของการเดินป่าคือ...อย่าปล่อยให้หิวน้ำ!!
คนตายในป่าเพราะ อดน้ำ ไม่ใช่อดข้าว คนปกติสามารถอดข้าวได้ถึง 3 อาทิตย์ แต่ถ้าอดน้ำจะเสียชีวิตภายใน 3 วัน ซึ่งนั่นเป็นขีดจำกัด ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าอดน้ำขณะกำลังเดินแค่ไม่กี่ชั่วโมง อาการก็จะเริ่มแย่ และสามารถเสียชีวิตได้ในวันเดียว
การขาดน้ำทำให้เลือดเลือดข้นขึ้นจนไหลเวียนไม่สะดวก มีอาการเริ่มแรกคือ ปวดหัว และอ่อนเพลีย ทำให้เดินช้าลงเรื่อยๆ เวลาลุกขึ้นนั่งหรือยืนแล้วจะหน้ามืด ริมฝีปากแห้งแตก ตาแห้ง เนื่องจากเวลาที่ร่างกายขาดน้ำ จะแสดงอาการออกมาทางปากก่อน อาจร้อนในจนปากพอง ตามมาด้วยอาการป่วยต่างๆ เช่น แน่นหน้าอก วัดความดันขณะเปลี่ยนท่าเป็นนั่งหรือยืนจะคงที่หรือต่ำลง หัวใจเต้นเร็วขึ้นแม้แต่เวลาหยุดพัก ถ้าเป็นหนักก็จะเจ็บหัวใจ ปวดหลังบริเวณไต ฯลฯ คนที่ฝืนเดินต่อไปโดยไม่มีน้ำ ก็จะล้มลงตายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ถ้าอดน้ำก่อนนอน จะทำให้ ท้องผูก ภูมิคุ้มกันต่ำ ป่วยไม่สบายเป็นไข้อ่อนๆเพราะร่างกายขับสารพิษออกได้ไม่เต็มที่
มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ชอบแบกน้ำ แล้วน้ำหมดกลางทาง ต้องนอนพะงาบๆ รอให้คนหาน้ำมาให้ บางคนต้องคลานไป เพ้อไป บางคนต้องทนกินน้ำในบ่อที่สกปรก เต็มไปด้วยขี้และเยี่ยวสัตว์ แถมยังต้องตุนน้ำสกปรกไปกินตลอดทาง หรือถ้ายังมีแรง ก็ต้องรีบดิ่งลงเขาไปหาน้ำ จะลำบากมากเพราะริมน้ำจะรกและเต็มไปด้วยต้นหนาม แม้จะมีน้ำดื่มเพียงพอ แต่ก็อาจพบโรคขาดน้ำได้บ่อยในผู้หญิง เพราะผู้หญิงกลัวฉี่บ่อย จึงไม่ชอบดื่มน้ำขณะเดินทาง นอกจากนี้ผู้หญิงยังเป็นโลหิตจางได้ง่ายจากการเสียเลือดมากระหว่างมีประจำ เดือน ซึ่งถ้าเป็นมากๆ จะมีอาการคล้ายโรคขาดน้ำ เช่น ปวดหัว หน้ามืด อ่อนเพลีย ฯลฯ
หลักการแบกน้ำคือ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า ควรเตรียมน้ำสะอาด ไปให้เพียงพอกับระยะทางที่เดินได้ตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องไปเติมกลางทาง และ ต้องเผื่อหลง เผื่อต้องนอนกลางทางด้วย ถึงแม้จะเดินเลาะริมลำธาร ก็อย่าประมาทเพราะ บางช่วงอาจต้องตัดขึ้นเขาไปไกลเกินกว่าจะลงไปหาน้ำ
ถึงแม้ว่าจะเดินตามลำธารก็ไม่ควรแวะกินน้ำในลำธาร เพราะ อาจมีสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นปนเปื้อนอยู่ เช่น เชื้อโรคหรือพยาธิจากมูลสัตว์ และ ปลิง บางแห่งเห็นน้ำใสๆ ลองทิ้งไว้ค้างคืนจะมีกลิ่น และจับตัวเป็นตะกอน โดยเฉพาะน้ำบริเวณป่าที่เป็นหินปูน น้ำจะใสมาก แต่เมื่อต้มเสร็จแล้ว จะตกตะกอนหินปูนสีขาว น้ำบางแห่ง ถึงแม้ว่าต้มแล้วก็ยังเหลือแคลเซียมละลายอยู่ในน้ำมากกว่าครึ่ง
คนที่ได้รับแคลเซียมมากเกินไปในวันเดียว ร่างกายจะขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดนิ่วสูง พื้นที่ที่มีไข้มาลาเรีย ก็จะมีเชื้อมาลาเรียปนมาในน้ำ เคยมีตัวอย่างของคนงานสร้างทางรถไฟผ่านป่าดงพญาไฟในอดีต ที่ป่วยตายกันหมดเพราะดื่มน้ำโดยไม่ต้ม ต่อมาใช้คนจีนมาสร้าง จึงสร้างเสร็จ เพราะคนจีนดื่มชา จึงต้องต้มน้ำก่อนดื่มเสมอ
>>>ตอนต่อไป...กฎของการดื่มน้ำในป่า <<<
เครดิต:ผู้เขียนเนื้อหาเหล่านี้เผยแพร่เพื่อประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง จึงไม่มีลิขสิทธิ์
อ่านต่อบทความคู่มือเดินป่า...ตอนที่ 4>>>>>>>>
คู่มือเดินป่าตอนที่1...https://is.gd/SgkF3
.
คู่มือเดินป่าตอนที่2...https://is.gd/P5Rw0
.
คู่มือเดินป่าตอนที่3...https://is.gd/lANrL
.
คู่มือเดินป่าตอนที่4...https://is.gd/FBvf5
.
คู่มือเดินป่าตอนที่5...https://goo.gl/5ACh2f
.
คู่มือเดินป่าตอนที่6...https://goo.gl/vx1qtc
ดูสินค้าของเรา>>คลิก..
- คู่มือเดินป่า..ตอนที 1...http://survivethailand.blogspot.com/2018/01/1.html
- วิธีการอยู่รอดในป่า..ตอน "5 วิธี..เอาตัวรอดเมื่อหลงป่า" http://survivethailand.blogspot.com/2018/01/5.html
- เอาชีวิตรอดในป่า ตอน.." 3 เทคนิคการหาน้ำดื่มกลางป่า" (มีคลิป)http://survivethailand.blogspot.com/2018/01/3.html
By :อยู่อย่างเสือ
ปัจจัยสี่ ความสะดวกปลอยภัย เหมาะกับพื้นที่จะไป
ตอบลบ